วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

วิวัฒนาการศึกษาไทยตอนที่ 2

คำถามทบทวน

1.แนวคิดทางการศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ การศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีวัดเป็นแหล่งให้ความรู้ โดยมีพระภิกษุเป็นผู้สอนเพียงเพื่อประกอบอาชีพ วิชาความรู้ที่ถ่ายทอดไม่มีจดบันทึก อาศัยการท่องจำ
2. สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ แตกต่างกัน เพราะ สมัยกรุงศรีอยุธยามีการติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก และมีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนา ส่วนสมัยสุโขทัยไม่มีไม่มีการติดต่อฝรั่งชาติและการศูนย์กลางการเรียน คือ วัดเท่านั้น
3. อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ  1.ภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจ
          2.แนวคิดและวิทยาการต่างๆของชาวตะวันตก
          3.การติดต่อกับต่างประเทศมากขึ้น
4. การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
เริ่มนำวิทยาการใหม่ จัดพพิมพ์ตำราเรียน เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปการศึกษาไทยในสมัยต่อไป
5. แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ จินดามณี เกิดสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
มีที่มาจากการที่ฝรั่งเศสได้ติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย
6. การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญและวิสามัญ เพื่อรับผิดชอบชั่วดี นำวิชาไปประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองที่ดี ทำให้ประเทศมีพัฒนาเท่าทันประเทศที่
เจริญแล้ว
7. การจัดการศึกษาไทยที่เรียกว่า มาติกาศึกษา เป็นอย่างไร จงอธิบาย 
ยกเหตุผล
ตอบ การศึกษามีศูนย์กลางคือ วัด มาติกาศึกษามี 8 มาติกา ดังนี้
         1.ตำบลที่เล่าเรียนคือ ตำบลของวัด
         2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์ และวิหาร
         3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
         4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
         5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอ และปากกาไม้ไผ่
         6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน
         7.วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
         8.ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัย การลงโทษ
8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ รัชกาลที่ 5 เพราะต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถมาพัฒนาประเทศให้เท่าเทียมกับชาติตะวันตกในทุกด้าน
9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการศึกษามากขึ้น ทำให้การเรียนสามารถเรียนทางไกลและสะดวกในการใช้สื่อค้นคว้าความรู้ได้ง่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนที่สามารถประยุกต์ใช้กับบทเรียนนั้นได้
10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ มียุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ การเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียนพัฒนาศักยภาพของนักการศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา เพิ่มคุณภาพการศึกษา การจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัฒน์ เพื่อพัฒนาการศึกษา สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนา
สิ่งแวดล้อม

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558

วิวัฒนาการศึกษาไทย ตอนที่1

วิวัฒนาการศึกษาไทย

ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ
    การศึกษาสมัยนี้มีบ้าน วัดเป็นศูนย์กลาง บ้านเป็นศูนย์กลาง
ในการขัดเกลาจิตใจสมาชิกในบ้านวัดเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม
ของศาสนา   ผู้ชายไทยนิยมบวชเรียน ส่วนผู้หญิงนิยมเย็บปักถักร้อยเพื่อไปดูแลครอบครัวในอนาคต
ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย
     ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
1. ผู้ชายเน้นบวชเป็นพระ ศึกษาพระไตรปิฏก
2. ผู้หญิงเน้นการเป็นกุลสตรีที่ดี การเป็นแม่บ้านแม่บ้านเพื่อให้ตัวเองเป็นภรรยาที่ดีของสามี
สถานที่ศึกษา
1. บ้าน เป็นสถานที่เริ่มต้นของผู้ชายและผู้หญิงทุกคน โดยอบรมบ่มเพาะจากบิดามารดา
2. วัด เป็นสถานที่ที่ศึกษาสำหรับพระ ศึกษาพระไตรปิฏก จริยธรรม คุณธรรม
3. สำนักราชบัณฑิต สำหรับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ศึกษาวิชาชีพที่สูงขึ้นมา
4. วัง สำหรับเชื้อราชวงศ์ ศึกษาเกี่ยวกับยุทธหัตถี การปกครอง
ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา
    ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
1. แบบทหาร เรียนเกี่ยวกับการใช้ดาบ ง้าว ศัสตราวุธ ขี่ม้า ขี่ช้าง
และตำราพิชัยสงคราม เพื่อนำไปปกป้องการรุกรานจากต่างประเทศ
2. แบบพลเรือน พลเรือนชายจะศึกษาพระไตรปิฏก เลข ภาษา
และโหราศาสตร์
สมัยอยุธยามีการแต่งหนังสือ "จินดามณี" และตั้งโรงเรียน 
" มิชชันนารี"
ประวัติศาสตร์สมัยธนบุรี
    ศูนย์กลางการศึกษาอยู่ที่วัด พ่อแม่จะพาลูกไปฝากที่วัด 
โดยมีพระสงฆ์สอนหนังสือ มีหนังสือจินดามณี ด้านอาชีพ
ลูกจะได้อบรมถ่ายทอดจากพ่อแม่
ประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยให้เด็กชายเข้าวัด
ให้เรียน อ่าน เขียน หลักคำสอนศาสนา โดยชนชั้นขุนนางจะเรียนปรัชญา เครื่องกล เครื่องมือและกลไก ในสมัยนี้ไม่นิยมให้
ผู้หญิงเรียนหนังสือ
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
    เริ่มมาจากรัชกาลที่ 5 นำเอาการศึกษาตะวันตกมาเกี่ยวข้อง
ในประเทศไทย มีการเลิกทาส โดยมีความทัดเทียมในการศึกษา
และมีการให้ความสำคัญของการศึกษา

ประวัติการศึกษาไทยและการพัฒนาการศึกษาไทย

    ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้มีความรู้ทางหนังสือ และทรงเปลี่ยนระบบการศึกษาเดิมเป็นแบบตะวันตก
และทรงตั้งโรงเรียนหลวง  คือ
"โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ" พ.ศ. 2427 
โดยจัดการศึกษาให้ทัดเทียมกัและทรงปรับปรุงเป็นโรงเรียน
นายทหารมหาดเล็กและได้ตั้งมหาวิทยาลัยแห่งของประเทศไทย

คือ  "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"

ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้มาก คือ
 คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต

ปฏิรูปการศึกษาไทย 1และการปฏิรูปการศึกษาไทย 2

  การศึกษาไทยเป็นระบบที่ล้มเหลวในการสอนคนอ่านเขียน
ได้อย่างแท้จริง
คุณภาพการศึกษาไทยที่พบในโลกจริง
1. เด็กไทยอ่านออกเขียนได้ในระดับที่จำกัด
2. เด็กไทยจำนวนมากไม่มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับสูง
3. ท่องจำแต่ไม่เข้าใจ
4. บัณฑิตไม่สามารถทำงานได้ ทำงานไม่เป็น เป็นต้น
อะไรทำให้การศึกษาไทยล้มเหลว
1. รัฐไม่ใส่ใจจัดสรรงบประมาณให้น้อย
2. ครูเงินเดือนน้อย คนเก่งไม่มาเป็นครู
3. เด็กไทยเรียนน้อยเกินไป ไม่ขยัน
เป้าหมายการศึกษาที่ดี
การที่ประชาชนได้มีความรู้ ทักษะที่จะนำไปแก้ไขปัญหา
และพัฒนาตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดี และจะพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น ต้องมีพัฒนาอย่างน้อย 3 ด้าน คือ
1. ความฉลาดทางปัญญา IQ
2. ความฉลาดทางอารมณ์ EQ
3. ความฉลาดทางสังคม SQ หมายถึง สำนึกในสังคมที่มีความร่วมมือ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ผู้ที่ศึกษาในอุดมศึกษายังขาดด้านอารมณ์และสังคม สังคมไทยถูกครอบงำด้านวัตถุนิยมของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม การศึกษากลายเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจผู้เรียนเป็นแรงงาน โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็น
รงงานผลิตแรงงาน

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปย่อปรัชญาการศึกษา

1. ปรัชญาสารัตนนิยม (essentialism)

    ด้านการเรียนรู้ เน้นการสร้างวินัยในตนเอง ด้านครูผู้สอน การศึกษามาจากครูมิใช่ผู้เรียน ครูเป็นผู้ให้นักเรียนเป็นผู้รับหลักสูตรเน้นเนื้อหาวิชาและวิธีสอนให้นักเรียนมุ่งรับรู้และจดจำใช้การปาฐกถา

2. ปรัชญานิรันตรนิยม (pernialism)

    โรงเรียนส่งเสริมให้รู้จักคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมเน้นระเบียบวินัย ผู้สอนเป็นศูนย์กลาง ใช้วิธีการบรรยายในการรับรู้ จดจำ  ใช้การออกกำลังกายในการสร้างผู้เรียนให้มีวินัย

3.ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม (progressivism)

    ครูเป็นผู้จัดประสบการณ์หรือกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนรวมอยู่บนพื้นฐานและความสนใจของผู้เรียนใช้วิธีสอนแบบปรัชญาตามหลักวิทยาศาสตร์ครูเป็น
ผู้ชี้แนะจัดกิจกรรม

4.ปรัชญาปฏิรูปนิยม (reconstructionism)

    สร้างความเสมอภาคและความเป็นธรรมอีกทั้งต้องเตรียมคนสู่สังคมใหม่ โรงเรียนจะต้องจัดกิจกรรมอย่างอิสระ ยืดหยุ่นผู้เรียนได้รับประสบการณ์และทักษะตามวิถีทางประชาธิปไตย

5.ปรัชญาอัตถิภาวะนิยม (existentialism)

    การจัดการเรียนการสอน มุ่งที่จะพัฒนาผู้เรียนดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่ภายในตัวเองออกมา แสดงออกมาอย่างอิสระครูเป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น

6.พุทธปรัชญา

    การศึกษาจะต้องมุ่งพัฒนาโลภ โกรธ หลงให้ลดลง และพัฒนาความรู้
ความจำ นิสัย และอื่นๆในทางที่เหมาะสมเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน